เปิดตัวเลขที่แมนยูต้องจ่ายค่าชดเชยหลังปลดราล์ฟ รังนิกออกจากตำแหน่ง

    ฤดูกาลที่ผ่านมานับเป็นฤดูกาลมรสุมของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเนื่องจากพวกเขานั้นต้องเปลี่ยนผ่านกุนซือถึง 3 คนเลยทีเดียว ช่วงระยะเวลาที่พวกเขาประสบความสำเร็จนั้นเป็นเพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ไม่อาจช่วยให้พวกเขาจบการแข่งขันพรีเมียร์ลีกด้วยอันดับ 4 บนตารางได้สำเร็จ นับเป็นผลงานที่ย่ำแย่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรก็ว่าได้

     ด้วยเหตุนี้สโมสรจึงไม่ลังเลที่จะทำการปลดผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลงานที่ย่ำแย่ออกไปให้หมดไม่ว่าพวกเขาจะต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากเท่าไหร่ก็ตาม ซึ่งหากคำนวณดูให้ดีจะพบว่ามันไม่มีความคุ้มค่าเลยแม้แต่น้อยเพราะพวกเขาต้องเสียเงินในการดึงตัวกุนซือเหล่านี้เข้ามาร่วมทีมและเมื่อปลดออกพวกเขายังต้องเสียค่าชดเชยอีกต่างหาก เราจึงจะพาทุกคนไปดูตัวเลขกันว่าหลังจากที่แมนยูทำการปลดราล์ฟ รังนิกออกจากตำแหน่ง พวกเขาต้องเสียเงินเป็นจำนวนเท่าไหร่ เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2021 ที่ผ่านมา สโมสรชื่อดังในพรีเมียร์ลีกตัดสินใจปลดโอเล่ กุนนาร์ โซลชากุนซือคนเก่าออกจากสโมสรหลังมีผลงานที่ย่ำแย่ พวกเขาตัดสินใจดึงตัวกุนซือชาวเยอรมันอย่างราล์ฟ รังนิกมารับตำแหน่งแทนและยังมีสัญญาพ่วงเป็นที่ปรึกษาของสโมสรอีก 2 ปีอีกต่างหาก อย่างไรก็ตามด้วยผลงานที่ย่ำแย่เกินความคาดหมายทำให้เจ้าตัวตัดสินใจที่จะโบกมือลาโรงละครแห่งความฝันอย่างถาวรหลังจบฤดูกาล 2021 ที่ผ่านมาเพื่อรับตำแหน่งกุนซือทีมชาติออสเตรียแทน        จากกรณีดังกล่าวมีสื่อชื่อดังออกมาเปิดเผยว่าสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นจะต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับอดีตกุนซืออย่างราล์ฟ รังนิกพร้อมกับเจ้าหน้าที่ทีมงานของเขาเป็นจำนวนตัวเลขสูงถึง 8 หลักเลยทีเดียวก่อนที่จะดึงตัวเอริค เทน ฮากจากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมมาคุมทีมแทน  ก่อนหน้านี้แมนยูต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับกุนซือคนเก่าอย่างโซลชาเป็นจำนวนเงินรวมแล้ว 9.7 ล้านปอนด์ให้กับเขาและทีมงาน โดยกุนซือจะได้รับเงินเป็นของตัวเองทั้งหมดถึง 7.5 ล้านปอนด์เลยทีเดียว ในขณะที่กรณีของราล์ฟ รังนิกสโมสรต้องหมดเงินไปเป็นจำนวนกว่า 15 ล้านปอนด์เช่นเดียวกัน รวมแล้วการปลดของกุนซือออกจากสโมสรนั้นแมนยูต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงินรวมแล้วถึง 24.7 ล้านปอนด์ เห็นได้ชัดว่าแมนยูมีการตัดสินใจที่ผิดพลาดในการดึงกุนซือตกยุคมารับตำแหน่งจนไม่สามารถคว้าโควตาเข้าร่วมการแข่งขันแชมป์เปียนลีกได้สำเร็จและต้องจบการแข่งขันไปด้วยอันดับที่ 6 อย่างทุลักทุเลในฤดูกาลที่ผ่านมา 

คุณอาจสนใจเรื่องเหล่านี้  ข่าวกีฬาออนไลน์