ไม่ถูกกับเรือใบ เปิดสถิติย่ำแย่ของโรนัลโด้เมื่อต้องพบกับแมนซิตี้

โรนัลโด้เป็นนักเตะระดับตำนานในแมนยูที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อลงสนามเป็นตัวจริงมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ที่น่าเจ็บปวดไปมากกว่านั้นก็คือผลงานของทีมโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อไม่มีเขาอยู่อีกด้วย ดังนั้นโอกาสที่เขาจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงยิ่งริบหรี่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมไปอีก ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นนักเตะอีกคนที่หมดอนาคตกับแมนยูไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามคาดการณ์เอาไว้ว่าเขาน่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงนัดพบกับทีมคู่ปรับร่วมเมืองเดียวกันอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในสนามเอติฮัด สเตเดี้ยมที่จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ เนื่องจากเป็นการแข่งขันครั้งใหญ่และแมนยูต้องการที่จะมั่นใจว่าพวกเขาจะมีนักเตะที่แข็งแกร่งมากพอในการรับมือกับนักเตะจากทีมคู่แข่งที่มีความแข็งแกร่งไม่แพ้ใครในช่วงเวลานี้ ไม่เพียงเท่านั้นยังมี 2 กองหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและน่าจะหายไม่ทันการแข่งขันดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นอองโตนี มาร์กซิยาลหรือแม้แต่มาร์คัส แรชฟอร์ดเองก็ตาม แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือทีมเรือใบสีฟ้าดูเหมือนจะไม่ใช่ทีมที่โรนัลโด้ถูกโฉลกด้วยสักเท่าไหร่ เขามีสถิติที่ไม่ค่อยดีกับการลงแข่งขันกับทีมดังกล่าว สื่อชื่อดังได้ออกมาเปิดเผยสถิติด้านลบที่เขาต้องเผชิญเมื่อต้องลงสนามพบกับแมนซิตี้ ตลอดอาชีพการเป็นนักเตะนั้นเขาถูกไล่ออกจากสนามทั้งหมด 4 ครั้งด้วยกัน และ 2 ครั้งนั้นเกิดขึ้นกับแมนซิตี้ในขณะที่เขายังคงอยู่กับแมนยูครั้งแรกในปี 2006 และ 2008 ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกไล่ออกจากสนามถึง 2 ครั้งในการแข่งขันแมนเชสเตอร์ดาร์บี้

เหตุการณ์ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในปี 2006 นั้นแมนยูออกไปเจอกับแมนซิตี้และต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้คะแนนกว่า 3 ประตูต่อ 1 กรรมการชูใบแดงให้กับโรนัลโด้หลังจากเขาเข้าไปเสียบแอนดี้ โคลแม้ว่าตัวนักเตะเองจะมั่นใจว่าเขาไม่ได้ปะทะดูคู่กรณีเลยก็ตามที ใบแดงดังกล่าวแมนยูได้ยื่นอุทธรณ์โทษแบน 3 เกมให้กับนักเตะ แต่เอฟเอก็ปฏิเสธเนื่องจากให้เหตุผลว่านักเตะเล่นอันตรายและอาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บหนักต่อคู่แข่งได้ เหตุการณ์ต่อมาในปี 2008 โรนัลโด้ถูกไล่ออกจากสนามในการแข่งขันนัดพบกับแมนซิตี้อีกครั้งในจังหวะที่ค่อนข้างคลุมเครือ เกิดจากจังหวะลูกเตะมุมที่บอลกระเด็นเข้ากรอบเขตโทษแทนที่เขาจะใช้หัวโขกบอล เขากลับก็ยกมือขึ้นมาป้องกันไม่ให้บอลกระทบโดนศีรษะแทน เข้าตัวให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันเอาไว้ว่าเวย์น รูนีย์เตะมุมเข้ามา ตนเองจึงกระโดดขึ้นไป แต่ตนเองได้ยินเสียงกองหลังแมนซิตี้ตะโกนขึ้นมาก่อนที่นกหวีดจะดัง ในตอนนั้นตนเองชื่อว่าผู้ตัดสินเป่าเพราะมีการทำฟาล์วตนเองจึงได้หยุดโหม่งลูกบอลเพื่อทำประตูและคว้าบอลเอาไว้แทน ตนเองพยายามอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ผู้ตัดสินก็ไม่ฟังแต่อย่างใด ตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด ตนเองแค่ได้ยินเสียงนกหวีดจึงหยุดเล่นเท่านั้น อย่างไรก็ตามการแข่งขันในครั้งนี้แมนยูเป็นฝ่ายที่สามารถคว้าชัยชนะเหนือแมนซิตี้ได้สำเร็จด้วยคะแนน 1 ประตูต่อ 0 

_________________________________________________________

ติดตามข้อมูลข่าวสารฟุตบอล : 10 อันดับนักเตะมาดริดที่ลงสนามมากที่สุด

ข่าวกีฬาล่าสุด : เว็บข่าวฟุตบอลไทย